วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560

ประเภทของตุ๊กตา

ประเภทของตุ๊กตา

1.ตุ๊กตาบาร์บี้ Barbie ผลิตโดย บริษัทแมตเทล เริ่มตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) เป็นตุ๊กตาจำลองรูปคน เน้นเรื่องการแต่งตัวตามแฟชั่น ส่วนมากมักจะ เป็นเจ้าหญิง เป็นเด็กผู้หญิง หรือไม่ก็ หญิงสาว  จำลองจากขนาดของคนจริงๆ สัดส่วนของตุ๊กตาจะย่อขนาดลงมา 6 เท่า แต่ความสูงนั้นจะอยู่ที่ 11.5 นิ้วโดยประมาณ

2.ตุ๊กตาบลายธ์ Blythe 
ตุ๊กตารุ่นนี้มีวางจำหน่ายเพียงปีเดียวในสหรัฐอเมริกา จากนั้นก็ไม่ได้มีการจำหน่ายอีก  เนื่องจากไม่ได้รับความนิยม
ตุ๊กตาบลายธ์มีลักษณะเด่นคือ มีตา ที่เปลี่ยนสีได้ กลมโต โดยดึงเชือกที่อยู่ด้านหลังศีรษะตุ๊กตา มีสัดส่วนลำตัวและขาสั้น ศีรษะโต  ดูเหมือนการ์ตูน
เป็นตุ๊กตาที่ผลิตในฮ่องกงและวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท เค็นเนอร์ (Kenner) เมื่อ พ.ศ. 2515 ออกแบบโดยนักออกแบบของบริษัท มาร์วิน กลาส สตูดิโอ ประกอบด้วย
แอลลิสัน แคตสแมน และรูเบ็น เทอร์เซียน
ปัจจุบันบริษัท เค็นเนอร์ ได้เลิกกิจการแล้ว และลิขสิทธิ์
ของตุ๊กตาบลายธ์ถือครองโดย บริษัท แฮสโบร

3.ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ Teddy bear
พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แห่งแรกของโลกตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1984 ณ เมืองแฮมเชียร์ แคว้นอังกฤษ สหราชอาณาจักร
ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ Teddy bear เป็นของเล่น หรือตุ๊กตารูปหมีสำหรับเด็ก
โดยเฉพาะสำหรับเด็กที่กำลังเจ็บป่วย ไม่สบาย ซึ่งมักเป็นของขวัญโดยแฝงนัยให้เด็กมีความอดทน และเข้มแข็ง  ในปัจจุบันมีการจัดจำหน่าย ในราคาแพง และขายเป็นคอลเล็กชั่นของตุ๊กตาหมีเท็ดดี้

4.เทะรุเทะรุโบซุ (ญี่ปุ่น: てるてる坊主 teru-teru-bōzu ?) หรือ ตุ๊กตาไล่ฝน ชาวญี่ปุ่นนิยมแขวนไว้ที่หน้าบ้าน ในเวลาที่ต้องการให้อากาศแจ่มใส เป็นตุ๊กตาขนาดเล็ก  ลักษณะของตุ๊กตาไล่ฝน
หัวกลมและมีการเขียนหน้าตา เป็นตุ๊กตาผ้าสีขาว  ชาวนาจะแขวนตุ๊กตาไล่ฝนกลับหัวสำหรับขอฝนในบางโอกาส ปัจจุบันยังมีการแขวนตุ๊กตาไล่ฝนกันบ้าง โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็ก
คำว่า โบซุ (坊主) แปลว่า พระ และ เทะรุ (てる) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "แดดออก"   ประมาณว่าเป็นตุ๊กตาที่นักบวชที่ทำขึ้นสำหรับขอพร ซึ่งญี่ปุ่นได้รับธรรมเนียมนี้มาจากประเทศจีนเมื่อราวสมัยเฮอัง ซึ่งประเทศจีนมี ตุ๊กตาเด็กผู้หญิงถือไม้กวาดอยู่ ที่เป็นตุ๊กตาขอพร เรียกว่า 掃晴娘 เชื่อกันว่าไม้กวาดสามารถขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปได้

5. ตุ๊กตามาโตรชก้า หรือ ตุ๊กตาแม่ลูกดก (รัสเซีย: матрёшка; [mɐˈtrʲoʂkə]) เป็นตุ๊กตาที่เรียงซ้อนๆ กันหลายตัว ของรัสเซีย ชื่อนี้แผลงมาจากชื่อสตรีภาษารัสเซีย ว่า "มาตรีโยนา" หรืออาจจะถูกเรียก
ว่าตุ๊กตาคุณยาย
ตุ๊กตาแม่ลูกดกชุดหนึ่ง แต่ละตัวประกอบด้วยสองส่วน คือส่วนบนและส่วนล่าง ตุ๊กตาทุกตัวมีโพรง นำมาประกบกันได้สนิทตามร่องที่เซาะเอาไว้ข้างใน
ตุ๊กตาแม่ลูกดกชุดหนึ่ง ประกอบด้วยตุ๊กตาไม้หลายตัวเรียงซ้อนกันอยู่ข้างใน   เว้นแต่ตัวสุดท้ายซึ่งมีขนาดเล็กสุด จะเป็นตุ๊กตาเต็มตัว ตัน ชิ้นเดียว ตุ๊กตาแม่ลูกดกชุดหนึ่งจะมีตุ๊กตาซ้อนข้างในกี่ตัวก็ได้ ถ้ามีจำนวนมาก ตุ๊กตาตัวใหญ่สุดที่อยู่นอกสุดก็จะต้องมีขนาดใหญ่มากด้วย ตุ๊กตาทุกตัวจะมีรูปร่าง คล้ายกระบอก ด้านบนโค้งมน โป่งตรงกลาง  ส่วนฐานเรียบ เหมือนกันหมด ไม่มีมือหรือส่วนใดยื่นออกมา แต่จะใช้สีวาดเป็นหน้าเป็นตาหรือขาทั้งหมดให้
ตุ๊กตาแต่ละตัว เคลือบเงาอย่างสวยงาม มีเสื้อผ้า และใบหน้าที่เหมือนกัน
หน้าตาของตุ๊กตาแม่ลูกดกนั้นเดิมนั้นทำเป็นหญิงชาวนา มีผ้าคลุมศีรษะ แต่งกายแบบดั้งเดิม  แต่ในภายหลังมีการวาดตุ๊กตาเป็น รูปนางฟ้า เทพธิดา และบุคคลที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น  นักร้องชื่อดังอย่างมาดอนน่า และ ไมเคิล แจ็คสัน
หรือจะดาราระดับตำนานอย่างมาริลิน
หรือผู้นำของ
รัสเซีย เช่นเลนิน ปูติน ไม่เว้นแม้แต่คาแรคเตอร์ของตัวละครชื่อดังอย่าง มิคกี้เมาส์ หมีพูห์

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560

ร้านขายตุ๊กตาน่ารักๆ

พูดถึงเรื่องร้านขายตุ๊กตา ปัจจุบันร้านขายตุ๊กตา ไม่ว่าจะเป็นร้านแบบมีหน้าร้านจริง หรือไม่มีหน้าร้าน ที่ขายกันบนอินเตอร์เน็ต ก็ล้วนแล้วแต่ซื้อตุ๊กตามาจากราชบุรี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตตุ๊กตา แหล่งใหญ่ของประเทศไทย หรืออีกที่ก็ประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตตุ๊กตาราคาถูกมากๆ ถ้าจะพูดกันถึงเรื่องคุณภาพนะครับ เท่าที่เคยเจอมา บอกตรงว่าไม่ต่างกันเลยครับ คุณภาพก็ตามเนื้อผ้าทุกที่อ่ะ ถูกมากก็ไม่ค่อยสวย แพงหน่อยก็สวยน่ารัก ขนนี่นุ่มมาก ตัวก็อ้วน ไม่เชื่อก็ลองเดินดูแถวสำเพงสิครับ มีตุ๊กตาทั้งแบบของราชบุรีกับจีนเลย ดูราคากับคุณภาพ ว่าราคาถูกเนื้อผ้า ขน ใส้ในตัวตุ๊กตาแน่นไหม ความน่ารักตัวตุ๊กตาต่างกันแค่ไหน ผมเห็นมีการโฆษณาหลายๆร้าน บอกของจีนไม่สวย ผอม ขนล่วง แต่ผมก็เห็นว่าตุ๊กตาที่เค้าขายที่บอกไม่ได้มาจากจีนอ่ะ ขนก็ล่วงนะ เนื้อแน่นพอกับของจีนอ่ะ ก็ตามราคา ถ้าตุ๊กตาตัวที่เค้าขายราคาสูงๆหน่อยก็คุณภาพดี แต่อย่างว่าของจีนที่ขายราคาเท่าๆกันก็คุณภาพดีเหมือนๆกันนะที่เห็นอ่ะ ก็พูดไว้เป็นแนวคิดแล้วกันครับ ว่าการเลือก ร้านขายตุ๊กตา เราควรพิจารณาเรื่องอะไร

วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560

เริ่มต้นขายของออนไลน์ยังไงดีนะ?

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่า ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ การเริ่มต้นขายของออนไลน์ให้เพื่อนๆที่อยากจะขายของออนไลน์  แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง บอกก่อนเลยว่าผู้เขียนเองก็มีความรู้บ้างนิดหน่อยเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เก่งแต่ก็สามารถเปิดร้านขายของออนไลน์เองได้ด้วยตัวคนเดียว เป็นไงอ่านแล้วมีกำลังใจที่จะเปิดร้านออนไลน์ขึ้นมาบ้างแล้วใช่ไหมเล่า ^^
     งั้นมาต่อกันเลยเข้าเรื่องๆบ่นมาเยอะเดี๋ยวเบื่อ อิอิ
      สิ่งที่ต้องทำมี 3 อย่างหลักๆ อย่างแรกเลยนะ
1.ถ้าอยากจะขายของบนโลกออนไลน์ คือ...การวางแผน
เหมือนกับการรบที่เค้า(เค้านี่หมายถึงใครหว่าจำไม่ได้ อิอิ ซุ่นหวู่ป่าว)ว่าไว้ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เพราะฉนั้นเราต้องมีการวางแผนที่ดี ^^
1.เลยที่ต้องรู้ต้องมีคือ สินค้าหรือของที่เราจะเอามาขาย ถ้ายังไม่มีหรือไม่รู้ก็ไม่ต้องคิดอย่างอื่นต่อเลย T-T
โจทย์มีอยู่ว่า สินค้าอะไรที่คนหาซื้อยากทั่วๆไป หรือจะหาซื้อก็ไม่ยากแต่ขี้เกียจออกไปซื้อ^^ ไงละนึกออกมั่งยังอิอิ
ตัวผู้เขียนเองก็มานั่งนึกนั่งคิด หาข้อมูลทุกวิถีทาง ทั้งอินเตอร์เน็ต ตะเวนหาดูสินค้าไปทั่วก็ไม่เจอสินค้าที่ว่าสักที จนหมดปัญญา เลยมานั่งนึกดูว่าเอ....ในเน็ตก็มีทุกอย่างขายเหมือนๆกันเต็มไปหมด แต่ทำไมเค้ายังขายกันรวยได้ เลยมานั่งนึกวิเคราะห์ดูร้านต่างๆ ก็เลยโป๊ะเชะเลย ตามที่ความเข้าใจของตัวผู้เขียนเองนะ สิ่งที่คนทั่วไปคิดว่าจะหาสินค้าอะไรที่ไม่มีขายในโลกออนไลน์นั้นยากอ่ะ ไม่มีทางหาเจอเอาจิงๆนะ รึหาเจอก็คงนานอ่ะกว่าจะได้ขาย รึได้ขายก็ต่อเมื่อคนอื่นที่คิดออกเอามาขายกันเกลื่อนหมดละ ดังนั้นโจทย์ที่ว่าสินค้าหายากไม่มีขายบนเว็บนั้นให้ลองปรับความตายตัวของโจทย์ลง เอาแค่ความแตกต่างของสินค้าที่เราจะขาย หรือจุดเด่นๆของตัวสินค้าที่เราจะขาย ถึงคนอื่นมีสินค้าประเภทเดียวกัน แต่เรามีความแตกต่างของตัวสินค้าที่ลูกค้าต้องเพิ่ม นั่นคือจุดขายเราเลย สรุปคือเลือกหาสินค้าที่มีจุดขายที่สามารถแยกจุดเด่นมาขายได้ อย่างผู้เขียนเองก็ขายตุ๊กตา อาจจะเห็นว่าขายกันเยอะแยะ แต่ตุ๊กตาตัวใหญ่ ไม่ได้มีกันทุกร้านหรือมีก็ไม่ได้เน้นตัวใหญ่ นั่นคือจุดเด่นของสินค้า จะเลือกขายเฉพาะตุ๊กตาน่ารักๆ ลิขสิทธิ์ก็ได้แต่ต้องถูกลิขสิทธ์นะจ๊ะ เดี๋ยวมีพี่ตำรวจแวะไปหาไม่รู้ด้วยนะเออ ^^
2.สิ่งที่จะต้องทำต่อมาคือเว็บไซด์ร้านค้า ทำไงอ่ะเขียนเว็บไม่เป็น ไม่มีความรู้ด้านนี้ อย่าพึ่งหมดหวัง 70-80% เจ้าของร้านค้าออนไลน์ ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ แต่เปิดร้านขายของรวยได้ เค้าทำไง มี 2 ทาง
1.จ้างเสียตังค์
2.เว็บใหบริการร้านค้าฟรี
ผู้เขียนเลือกวิธีที่ 2 เหตุผลเพราะ ฟรี 55+ และอีกอย่างมีธีมที่สวยงาม พร้อมลงสินค้าขายได้ทันที แต่จริงๆก็ไม่ได้ฟรีไปซะทุกอย่างอ่านะในเว็บเค้า บางอย่างก็ต้องเสียตังค์ อย่างเช่นจดทะเบียนโดเมนชื่อร้านให้เป็นชื่อที่เราตั้งเอง
พอได้เว็บร้านเราแล้วที่เหลือก็ลงสินค้าขายได้เลย แต่คงยังขายไม่ออกเพราะเหลืออีกข้อที่เรายังไม่ได้ทำนั่นคือข้อ 3.
ข้อ 3.คือการทำให้มีคนเข้าร้านเรารู้จักร้านเรา และซื้อสินค้าของเรา
ทำไงอ่ะ นั่นดิ 55+ ถามเอง งงเอง เอาแบบรวบรัดตัดตอนถุบหัวเข้าถ้ำเลยนะ ตลาดออนไลน์อ่ะใหญ่ระดับประเทศเชียวนะ ทำไงให้ลูกค้ามาซื้อของร้านเรา นั่นคือการโปรโมทเว็บร้านเราให้เว็บเราขึ้นไปติดอันดับหน้าแรกให้ได้ วิธีการแบบสั้นๆรวบรัดคือ...  ตุ๊กตา
การทำ SEO รายละเอียดหาอ่านได้ที่ thaiseoboard.com (ไม่ใช่หน้าม้านะ ขออนุญาตเจ้าของเว็บด้วยนะครับ) ความรู้เทคนิค ทุกอย่างเกี่ยวกับการทำเว็บร้านค้ามีหมดอ่ะ
สร้าง backlink เยอะแต่อย่าสแปม เดี๋ยวเว็บหาย เขียน blog ที่มี content ดีๆมีคุณภาพเยอะๆ ฝากลิ้งค์เว็บร้านเราตามเว็บฟรีต่างๆที่เค้าให้ฝากได้ social media เช่น facebook twister youtube โพสแล้วก็แปะลิ้งค์ร้านเราลงไปด้วย หรือโพสตามฟรีเว็บบอร์ดที่เค้าให้ใส่ลายเซ็นต์ด้วย เราก็ใส่ลิ้งค์ร้านเราลงไปด้วยเลย แลกเปลี่ยนลิ้งค์ร้านเรากับเว็บอื่นเอาแบบให้แปะทุกหน้าของเว็บร้านเค้าเลยยิ่งดี(ถ้าเจ้าของเค้ายอมทำให้) add social bookmark , add web directory วิธีการก็ประมาณนี้นะที่ทำ
     สุดท้ายที่อยากจะบอกคือความอดทน และขยัน (***นี่เป็นเพียงบทความเริ่มต้นเท่านั้น) บอกตงบางคนทำได้เดือนเดียวเลิกเพราะขายไม่ได้ลงทุนไปสามหมื่น ขายไม่ได้สักอัน T-T
คุณเคยได้ยินคำว่าการลงทุนคือความเสี่ยงไหม นั่นแหละ คุณต้องเตรียมใจไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อเจ้ง แต่ถ้าคุณวางแผนดีๆก็ลดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว ขายของออนไลน์ใช้เวลาและความอดทนครับ อย่าใจร้อนค่อยๆทำไป แล้ววันที่คุณขายของได้อย่างที่คุณต้องการ คุณจะมีความสุขกว่าการใช้เงินจ้างทุกอย่างเพราะคุณได้สร้างมันมากับมือครับ^^